ข่าวประชาสัมพันธ์
เกี่ยวกับสำนักงาน
ประวัติความเป็นมา
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๒๗๖ บัญญัติให้มีการจัดตั้งศาลปกครองขึ้น ต่อมาพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้มีการเปิดทำการศาลปกครองกลางกับศาลปกครองสูงสุดตั้งแต่วันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๔ เป็นต้นมา และได้มีการจัดตั้งศาลปกครองในภูมิภาคขึ้นอีกหลายแห่ง โดยระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยองค์คณะฯ พ.ศ. ๒๕๔๔ ข้อ ๒๐ วรรคสอง กำหนดว่า “คู่กรณีซึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ อาจมอบอำนาจให้ข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้าง แล้วแต่กรณีของหน่วยงานทางปกครองนั้น หรือของหน่วยงานทางปกครองที่เจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นสังกัดอยู่ หรือพนักงานอัยการฟ้องคดีหรือดำเนินคดีปกครองแทนได้” อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ.๒๔๙๘ สำนักงานอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ ๒๑๔/๒๕๔๔ วันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ จัดตั้งสำนักงานคดีปกครองขึ้นในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ให้มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินคดีปกครองแทนหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ และต่อมาอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้มีประกาศคณะกรรมการอัยการ เรื่อง การแบ่งหน่วยงาน และการกำหนดอำนาจและหน้าที่ของหน่วยงานภายในของสำนักงานอัยการสูงสุด พ.ศ. ๒๕๕๔ แบ่งหน่วยงานราชการภายในของสำนักงานอัยการสูงสุดโดยมีสำนักงานคดีปกครองและสำนักงานคดีปกครองในภูมิภาคเป็นหน่วยงานราชการภายในของสำนักงานอัยการสูงสุด มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบการดำเนินคดีทั้งปวงตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของพนักงานอัยการหรือสำนักงานอัยการสูงสุดซึ่งอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองกลางและศาลปกครองในภูมิภาค ปัจจุบันสำนักงานคดีปกครองในส่วนกลางแบ่งออกเป็นสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปกครอง ๑-๗ มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินคดีปกครองแทนหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองกลางซึ่งมีเขตอำนาจตลอดท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งจังหวัดที่มิได้อยู่ในเขตอานาจของศาลปกครองในภูมิภาค คือ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดนครนายก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดอ่างทอง
วิสัยทัศน์ (Vision)
“องค์กรนำในการใช้กฎหมาย เพื่อรักษาความยุติธรรมให้กับประชาชนและสังคม”
พันธกิจ (Missions)
1. ยกระดับคุณภาพมาตรฐานงานตามภารกิจ ด้านการอํานวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและช่วยเหลือทาง กฎหมายแก่ประชาชนให้มีคุณภาพ โปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา
2. พัฒนาความร่วมมือ บูรณาการเครือข่ายองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้านการพัฒนากระบวนการยุติธรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมของประเทศ
3. เพิ่มศักยภาพมาตรฐานกลไกการบริหารจัดการระบบงานและกระบวนการทํางานที่สําคัญ รวมทั้งการพัฒนาระบบติดตามประเมินผลและระบบจัดการองค์ความรู้เพื่อมุ่งสู่การสร้างนวัตกรรมโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นพื้นฐาน
4. พัฒนาองค์กรให้มีคุณภาพคู่คุณธรรมตามหลักธรรมาภิบาล บุคลากรมีสมรรถนะสูง มีคุณธรรม จริยธรรม และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
โครงสร้าง (Structure)
วัฒนธรรมองค์กร
เขตอำนาจศาลปกครอง
1. ศาลปกครองกลางโดยมีเขตอำนาจตลอดท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งจังหวัดที่มิได้อยู่ในเขตอานาจของศาลปกครองในภูมิภาค คือ จังหวัดนครนายก จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี
2. ศาลปกครองเชียงใหม่โดยมีเขตอำนาจตลอดท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดลำปาง จังหวัดลำพูน และมีเขตอำนาจเพิ่มเติมในจังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่
3. ศาลปกครองสงขลาโดยมีเขตอำนาจตลอดท้องที่จังหวัดสงขลา จังหวัดตรัง จังหวัดพัทลุง จังหวัดสตูล และมีเขตอำนาจเพิ่มเติมในจังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา
4. ศาลปกครองนครราชสีมาโดยมีเขตอำนาจตลอดท้องที่จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดชัยภูมิ และมีเขตอำนาจเพิ่มเติมในจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์
5. ศาลปกครองขอนแก่นโดยมีเขตอำนาจตลอดท้องที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมหาสารคาม และมีเขตอำนาจเพิ่มเติมในจังหวัดมุกดาหาร
6. ศาลปกครองพิษณุโลกโดยมีเขตอำนาจตลอดท้องที่จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดตาก จังหวัดพิจิตร จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดอุตรดิตถ์
7. ศาลปกครองระยอง โดยมีเขตอำนาจตลอดท้องที่จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดตราด จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดสระแก้ว
8. ศาลปกครองนครศรีธรรมราช โดยมีเขตอำนาจท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุราษฎร์ธานี และมีเขตอำนาจเพิ่มเติมในจังหวัดชุมพร และจังหวัดระนอง
9. ศาลปกครองอุดรธานี โดยมีเขตอำนาจท้องที่จังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานี และมีเขตอำนาจเพิ่มเติมในจังหวัดนครพนม จังหวัดบึงกาฬ และจังหวัดสกลนคร
10. ศาลปกครองอุบลราชธานี โดยมีเขตอำนาจท้องที่จังหวัดยโสธร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอำนาจเจริญ
11. ศาลปกครองเพชรบุรี โดยมีเขตอำนาจท้องที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดราชบุรี และจังหวัดสมุทรสงคราม
12. ศาลปกครองนครสวรรค์ โดยมีเขตอำนาจท้องที่จังหวัดชัยนาท จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดอุทัยธานี
13. ศาลปกครองสุพรรณบุรี โดยมีเขตอำนาจท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี และมีเขตอำนาจเพิ่มเติมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดอ่างทอง
14. ศาลปกครองภูเก็ต โดยมีเขตอำนาจท้องที่จังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดระนอง
15. ศาลปกครองยะลา โดยมีเขตอำนาจตลอดท้องที่จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส
ทำเนียบผู้บริหาร
1 | นายจิระ พรรณราย | ม.ค.2546 – ก.ย.2548 |
2 | นายมนัส สุขสวัสดิ์ | ต.ค.2548 – ต.ค.2550 |
3 | นายประศาสน์ชัย ตัณฑพานิช | ม.ค.2551 – ก.ย.2553 |
4 | นายขจรศักดิ์ สมานชาติ | ต.ค.2553 – มี.ค.2554 |
5 | นายมนัส สุขสวัสดิ์ | เม.ย.2554 – ก.ย.2554 |
6 | นายวีรพล ปานะบุตร | ต.ค.2554 – ก.ย.2556 |
7 | นายชุติชัย สาขากร | 14 ต.ค.2556 – 4 ก.ค.2557 |
8 | นายนันทศักดิ์ พูลสุข | 7 ก.ค.2557 – 30 ก.ย.2558 |
9 | นายเชิดศักดิ์ หิรัญสิริสมบัติ | 1 ต.ค.2558 – 1 ต.ค.2560 |
10 | นายเทพสิทธิ์ รักไตรรงค์ | 2 ต.ค.2560 – 30 ก.ย.2562 |
11 | นายชาตรี ศรีวิเศษ | 1 ต.ค.2562 – 30 ก.ย.2563 |
12 | นายพลธรรม ปันต๊ะ | 1 ต.ค.2563 – 30 ก.ย.2564 |
13 | นายประพัฒน์พงศ์ สุคนธ์ | 1 ต.ค.2564 – 30 ก.ย.2565 |
14 | นายอนันต์ ธรรมรัตน์ | 1 ต.ค.2565 – 30 ก.ย.2566 |
15 | นางอัญชลี สอนสุภาพ | 1 ต.ค.2566 – ปัจจุบัน |
โครงสร้างอัตรากำลัง
แนวทางการส่งเรื่องให้อัยการ
สถิติคดี
การเตรียมเอกสารเพื่อดำเนินคดีปกครองด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
เอกสารและบทความ
ปกิณกกฏหมายปกครอง
- เขตอำนาจศาล
- การนำอายุความทางอาญามาใช้ในคดีละเมิดปกครอง
- อัยการคดีปกครองร่วมเดินเผชิญสืบ…คดีมลพิษทางเสียงจากกังหันลม ห้วยบง
- ดอกเบี้ยค่าทดแทนในคดีเวนคืน
- หลักการอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น
- กรณีที่อาจเรียกค่าปรับได้เกินร้อยละ 10 ของค่าจ้าง
- เคยถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลาย และปลดจากการล้มละลายแล้ว ก็ยังถูกฟ้องต่อศาลปกครองให้ชำระหนี้ได้อีก
- หลักการดำเนินคดีกฏหมายปกครองเบื้องต้น
- อายุความฟ้องคดีเวนคืนที่ดิน
- สัญญาทางปกครองกับความรับผิดของหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด
- กรณีนิติบุคคลถูกขีดชื่อออกจากทะเบียน
สำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ชั้น 6 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. 10210
โทรศัพท์ 0 2142 1419 (งานคดี) โทรศัพท์ 0 2142 1951 (งานธุรการ) โทรสาร 0 21439497
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปกครอง 1 | โทร 0 2142 1961 โทรสาร 0 2143 9498 E-mail : saraban_admin1@ago.mail.go.th (รับ-ส่งหนังสือระหว่างหน่วยงานภายนอก) |
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปกครอง 2 | โทร 0 2142 1975 โทรสาร 0 2143 9499 E-mail : saraban_admin2@ago.mail.go.th (รับ-ส่งหนังสือระหว่างหน่วยงานภายนอก) |
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปกครอง 3 | โทร 0 2142 1985 โทรสาร 0 2143 9241 E-mail : saraban_admin3@ago.mail.go.th (รับ-ส่งหนังสือระหว่างหน่วยงานภายนอก) |
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปกครอง 4 | โทร 0 2143 9158 โทรสาร 0 2143 9158 E-mail : saraban_admin4@ago.mail.go.th (รับ-ส่งหนังสือระหว่างหน่วยงานภายนอก) |
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปกครอง 5 | โทร 0 2142 1429 โทรสาร 0 2143 9159 E-mail : saraban_admin5@ago.mail.go.th (รับ-ส่งหนังสือระหว่างหน่วยงานภายนอก) |
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปกครอง 6 | โทร 0 2142 2024 โทรสาร 0 2143 9168 E-mail : saraban_admin6@ago.mail.go.th (รับ-ส่งหนังสือระหว่างหน่วยงานภายนอก) |
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปกครอง 7 | โทร 0 2142 2147 โทรสาร 0 2143 7771 E-mail : saraban_admin7@ago.mail.go.th (รับ-ส่งหนังสือระหว่างหน่วยงานภายนอก) |